(Chef Table) Savoury Night with 2 Hot Chefs! เปิดโต๊ะมื้ออร่อยกับสองเชฟหนุ่ม

Chef Table มื้อค่ำสุดพิเศษ

อะไรจะมีความสุขกว่าการได้ทานอาหารอร่อยๆ ปรุงอย่างละเอียด พิถีพิถัน จากฝีมือของเชฟมากประสบการณ์ และมากด้วยความสร้างสรรค์ ละเลียดกับรสสัมผัสของวัตถุดิบแต่ละชิ้นที่ผ่านการปรุงผสมผสานกันอย่างลงตัวในบรรยากาศแบบ Fine Dining but cozy

เชฟสุดหล่อนั้นเป็นโบนัสค่ะ ฮิฮิ

เนื่องจากเมื่อคืนเพลินไปร่วมทานอาหารแบบ Chef Table ที่จัดโดย Magnolia Cafe Chiang Mai ซึ่งเค้าจะจัดดินเนอร์แบบเชฟเทเบิ้ลอยู่เรื่อยๆ ครั้งนี้เป็น Chef Series2 # Two to Tango โดยจะมีเชฟกันน์ และเชฟเจ็ม จากรายการ Top Chef Thailand Season 2 มาทำอาหารให้เราทานในวันนี้

เพลินเป็นแฟนรายการทอปเชฟไทย์แลนด์อยู่แล้ว และชอบสไตล์การทำอาหารของเชฟกันน์มากๆ และก็ชอบเชฟเจ็ม เพลินว่าเชฟเจ็มน่ารักดี และเค้ามีมุมอดทน ตั้งใจมากๆ ชวนให้เพลินลุ้นเอาใจช่วยในรายการทุกรอบเลย มีโอกาสได้มาทานอาหารที่ทั้งสองคนทำแบบนี้ รีบคว้าไว้ไม่ให้พลาดเลยค่ะ

การทานดินเนอร์แบบเชฟเทเบิลนั้นจะจัดตามโอกาส และเราต้องจอง อารมณ์เหมือนซื้อบัตรล่วงหน้า (อารมณ์นั้น) ค่ะ ราคาคนละ 2,900 ฿

ตอนแรกเป็นไวน์ดินเนอร์ แต่พอดีติดช่วงเลือกตั้งเลยงดเสิร์ฟไวน์ ขายไวน์หรือแอลกอฮอล์ค่ะ ซึ่งก็ดีเพราะเพลินไม่ค่อยทานไวน์ค่ะ (เดี๋ยวไม่คุ้ม)

ดินเนอร์จะเริ่มเสิร์ฟตอน 19.00 น. ก็ทุ่มนิดๆ ค่ะเริ่มเสิร์ฟ เพลินได้นั่งมุมที่เห็นครัวอยู่ไกลๆ

หิวแล้ว เริ่มได้

เซทเมนูในวันนี้ค่ะ ทานกันเยอะจุใจไปเลย

ระหว่างรอเราก็แอบเมียงมองเชฟ น่ารักจังเลย ฮ่าๆๆ และก็ตื่นเต้นอยากทานอาหาร (ที่จริงคือหิวมากค่ะ ล้างท้องมาตั้งแต่กลางวันแล้ว)

เริ่มจากเสิร์ฟขนมปังก่อน ไม่ใช่ขนมปังไก่กาธรรมดาน้า แต่เป็น Tomato Focaccia, Tomato Butter ขนมปังโฟกาเซีย (โฟกัชช่า ในภาษาอิตาเลียน) มะเขือเทศ คือตัวขนมปังมีมะเขือเทศด้วยเลย ทานคู่กับเนยมะเขือเทศก้อนกลมๆ เล็กๆ ข้างๆ

นี่เราก็มาแอบดูเชฟเตรียมก่อน

ต่อไปคือ Amuse Bouche ที่แปลว่า เมนูที่อร่อยในคำเดียว คือกินไปหนึ่งคำแล้วว้าว ไรประมาณนั้นค่ะ ซึ่งเสิร์ฟเป็น Onion Soup, Cheesy Mustard คู่กับ Puffed Rice Crackers, Vegetable Charcoal, Citrus

ลูกกลมๆ ขวามือคือซุปหัวหอมที่ทำเป็นก้อน มีชีสและมัสตาร์ด อร่อยมากกกกก เพลินชอบจานนี้มากค่ะ ตัวนี้เชฟเจ็มเป็นคนทำ ส่วนทางซ้ายจะคล้ายข้าวเกรียบแต่เนื้อบาง ได้รสเปรี้ยวๆ ของอะไรอีกหลายชั้น สดชื่นดีมากๆ ค่ะ เมนูนี้ของเชฟกันน์ค่ะ

ต่อไปมาถึง starter บ้าง ตัวนี้จะคล้ายๆ ปลาแห้งแตงโม แต่ไม่ใช่น้า ตามชื่อเลยจ้ะ สดชื่นได้ใจมากๆ

Water Melon Ice, Dash Jelly, Bacon, Crispy Shallot

เมนูนี้ของเชฟกันน์ค่ะ

เชฟกันน์มาอธิบายเมนู

Creativity & Yummy

starter ตัวต่อไปเพลินชอบเป็นพิเศษ (อีกแล้ว) คือ Mussels Viennoise, leek
เชฟเจ็มแกะเปลือกหอยมาให้แล้ว ทานกับโฟมชีสต้นหอม ได้ทั้งรสชีสพอดีๆ กับรสครีม ลงตัวมากๆ

เชฟเจ็มมาอธิบายเมนูค่ะ

starter อีกตัวเป็นของเชฟกันน์ค่ะ ตัวนี้เป็นผักล้วน เพราะเชฟกันน์ชอบทานผัก เอาไปย่างและทานกับซอสพิสตาชิโอ กำลังดีเลยค่ะ จริงๆ มีรสสัมผัสอีกหลายตัวแต่เพลินไม่ทราบเพราะฟังไม่ทันค่ะ

มาต่อที่ซุปบ้างค่ะ เมนูของเชฟเจ็ม ตอนแรกจะเสิร์ฟถ้วยที่มีเชสนัทกับเฮิร์บก่อน แล้วเชฟเจ็มจะเป็นคนมาเทน้ำซุปด้วยตัวเอง เห็นว่าเคี่ยวสต๊อกไว้สองวันแน่ะค่ะ กลมกล่อมมาก เพลินกินหมดเกลี้ยงในไม่ถึงยี่สิบวินาทีค่ะ ทานไปก็ดูหน้าเชฟเจ็มไปด้วย ยิ้มหวานน่ารักมาก

เมนูนี้ชื่อ Chestnut Veloute, apple and chestnut confit

ทานต่อไม่รอแล้วนะ

มาต่อที่ Pre-Main บ้าง ยังไม่เมนคอร์สนะคะ บอกแล้วว่าละเอียดมาก

น่าทานไหมล่า Mushroom, Duck egg herb, mushroom jus

พอให้ไข่เป็ดเยิ้มทานกับเห็ดนี่ฟินสุดๆ

ต่อมาถึงตา Main Course แล้วค่ะ จะแบ่งเป็น 2 จานนะคะ

จานแรกคือ Black Cod marinated in Miso, Onion Compote ห่อใบตองมาน่ารักเลย แท่งด้านข้าง (ขวา) ก็สอดไส้ด้วยนะคะ ได้ texture หลายอย่าง รสชาติหลายรสเลยค่ะ

เนื้อปลาปรุงกับมิโสะอร่อยกำลังดี เค็มๆ หวานมันนิดๆ ลงตัว

ถึงตอนนี้เริ่มอิ่มแล้วค่ะ แต่ยังไม่จบ จังหวะนี้ใช้เวลานานหน่อยราว 15 นาทีกว่าเมนอีกจานจะออกค่ะ เราก็มาแอบดูเชฟเตรียม

มาแล้วค่ะ Lamp chop, Brassicas, shrimp paste jus หรือแปลง่ายๆ แบบไม่ซับซ้อนคือ แกะซอสกะปิ! ปกติเพลินไม่ค่อยทานแกะเพราะส่วนใหญ่มักเจอคนทำเหม็นสาบ แต่นี่คือดีมาก ไม่เหม็นสาบ ไม่เหนียวเลยสักนิด และการใช้กะปิมาทำซอสคือเวิร์คมาก ลงตัวสุดๆ ทานคู่กับผักกะหล่ำเป็นเครื่องเคียง คล้ายๆ ซาวเคราท์แต่ไม่เปรี้ยวเท่า เพลินว่าดีเหมือนกันที่ไม่เปรี้ยวมากเพราะไม่ดับรสกะปิและสัมผัสแกะค่ะ

เชฟกันน์มาอธิบายเมนูตามโต๊ะว่าทำยังไง ทานยังไง

จะอิ่มแล้วน้า แต่ยังเหลือที่ให้ของหวานอยู่นะคะ

จานนี้คือ Mulberries, Rosella Peppercorn Sabayon แวบแรกที่ชิมรู้สึกว่าหวานจัง แต่เป็นเพราะเราตักส่วนเดียว คือควรจะกินทุกส่วนพร้อมกัน เพราะพอคำถัดมากินด้วยกัน อื้อหือ incredibly yummy! ไม่น่าเชื่อว่ามันจะกลมกล่อมพอดี

ของหวานอีกจานก่อนจบมื้ออร่อยอันยาวนานค่ะ ตัวนี้คือ Orange Almond Cake, Marian Plum Ice-cream, White Chocolate Crumble คือเค้กส้มอัลมอนด์ ทานคู่กับไอติมมะยงชิด! มันชื่นใจมากๆๆๆๆๆ อยากจะทานแต่ไอติมเพิ่มสักลูกเลย ตัวเค้กหวานหน่อยแต่ทานกับไอติมมะยงชิดก็ตัดกันดี มีครัมเบิ้ลให้กรุบกรอบเล่นส่งท้าย

มื้อแห่งความสุขและรอยยิ้ม

จบดินเนอร์อิ่มอร่อย และอิ่มตาอิ่มใจค่ะ เชฟทั้งสองเก่งและมีความคิดสร้างสรรค์มาก รสมือดี และดูตั้งอกตั้งใจ ที่สำคัญอัธยาศัยดี ยิ้มแย้มตลอด ไม่มีหลุดเหนื่อย เหวี่ยงให้เห็นเลยค่ะ แขกที่มาทานรับรู้ได้ถึงความตั้งใจ และก็ฟินไปตามๆ กัน

เพลินก็ขอถ่ายกับสองเชฟสักหน่อย เราเป็นแฟนตัวยงนะจะบอกให้ ตอนดูรายการนี่ดูละเอียดทุก Ep ค่า

Summary
Chef Table
Event: Chef Series 2 # Two to Tango
Chef: Sorawis Saengvanich (Chef Gunn)
Sirivarit Sinitsongkun (Chef Gem)
Location: Magnolia Cafe Chiang Mai
Date: 16 March 2019
Price: 2,900 ฿ / person

ไม่รู้อ่านแล้วจะทำให้ยิ่งหิวกันหรือเปล่านะคะ ครั้งหน้าเพลินจะไปที่ไหน หรือเพื่อนๆ อยากแนะนำร้านอะไรก็คอมเมนต์บอกกันไว้ได้ค่ะ

สอบถามพูดคุยกับเพลินได้ทางคอมเมนต์นี้
หรือ
email: ploenthejourney@gmail.com
Facebook: เที่ยวเพลิน – Ploen the Journey

แล้วพบกันใหม่ค่ะ

เพลิน

#travelwithploen #ploenthejourney #foodstory #foodjourney #เที่ยวเพลิน