ทะเลสาบสุริยันจันทรา…ใครช่างคิดชื่อนี้กันหนอ มันไพเราะและลิเกไปในตัว ชวนให้นึกถึงหนังจีนกำลังภายใน แต่จะไม่ให้แปลแบบนี้ จะให้แปลยังไงละเนอะ มันก็ลงตัวที่สุดแล้ว
เพลินมาถึงทะเลสาบสุริยันจันทราก็ใกล้เที่ยงแล้ว เดินทางจากไทเปมาถึงที่นี่ใช้เวลาสองชั่วโมงกว่า เริ่มจากนั่งรถ MRT มาลงสถานี Taipei Main Station (ซึ่งเป็นสายสีแดง อยู่ถัดจากสถานีจงซานใกล้โรงแรมเพลินแค่ 1 สถานี) พอมาถึงก็มองหาป้าย HSR (THSR – Taiwan High Speed Rail) คือรถไฟความเร็วสูง แล้วเดินไปตามป้าย ดูเลขขบวนรถแล้วไปนั่งรอที่แพลตฟอร์ม เนื่องจากเราต้องนั่งไปลงเมืองไท่จง ซึ่งอยู่เกือบกลางประเทศ (ไทเปอยู่ด้านบนเกาะ) ให้สังเกตป้าย Southbound เป็นหลัก รวมเวลาเดินออกจากโรงแรมมาถึงหน้าแพลตฟอร์มรอรถไฟใช้เวลาไม่เกิน 10 นาทีเองค่ะ โชคดีคนไม่เยอะด้วย เพลินจองรถไฟทางออนไลน์ตั้งแต่คืนแรกที่มาถึง และมารับตั๋วก่อนแล้วเมื่อวาน เลยชิล ไม่ต้องรีบร้อน มาถึงก่อนเวลา 8.46 ตั้งครึ่งชั่วโมง
.
ใช้เวลาประมาณ 40 นาทีไปถึงเมือง Taichung หรือไท่จง จากนั้นออกทางออกที่ 5 คือเดินลงข้างล่างจะมีซุ้มขายตั๋วรถบัสให้เรานั่งไปเมืองหนานโถว (Nantou) เพลินเลยเลือกซื้อ Sunmoon Lake Pass ที่รวมตั๋วรถบัสไปกลับ ไท่จง-หนานโถว และรวมตั๋วเรือแวะ 3 ท่า และรวมขึ้นกระเช้า (Ropeway) ขึ้นไปชมวิวสูงด้วย เป็น Pass สีแดง ราคา 720 TWD และหยิบตารางรถบัสมาด้วยจะได้กะเวลาได้
พอดีกับที่ซื้อพาสเสร็จ เจ้าหน้าที่ก็บอกว่า จะไปทะเลสาบใช่ไหม ขึ้นคันนี้เลย ก็ขึ้นไปแบบงงๆ พยายามเทียบเวลาตามตารางที่ได้ ก็ไม่เห็นตรง เพราะรถออก 10.00 เป๊ะ แต่ไม่มีในตาราง! จนทุกวันนี้ก็ไม่เข้าใจ
ใช้เวลาเดินทาง 1 ชั่วโมงกว่าก็มาถึงเมืองหนานโถว เห็นป้ายท่าเรือ Shuishe ชี้ไปทางนึง แต่ในหนังสือบอกให้เดินย้อนลงเนินไปแล้วเลี้ยวขวา เดินต่อจะถึงท่าเรือที่ต้องขึ้น ขณะที่กำลังงงก็มีผู้หญิงคนนึงเดินมาบอกให้ฉีกตั๋วมาแลกบัตรขึ้นเรือ
คือบัตร Pass จะเป็นกระดาษแผ่นใหญ่ๆ และมีตั๋วแต่ละประเภท ที่มีรอยปรุอยู่ แต่ละครั้งที่ใช้ตั๋วก็จะถูกฉีกออกไป
เมืองหนานโถวก็จะดูเรียบง่าย ชนบทๆ ดี (ป้ายชี้ท่าเรือไปทางนี้ จริงๆไปอีกทาง)
สรุปก็ต้องเดินมาตามทางที่หนังสือบอกนั่นแหละ สักแป๊บก็ถึงท่าเรือ แต่เพลินหิว ที่กินข้าวปั้นแฟมิลี่มาร์กะกล้วยรองท้องตอนเช้าย่อยไปหมดแล้ว และไม่อยากรอไปกินไข่ต้มใบชาที่เกาะซวงกวง (ท่าเรือแรก) หน้าท่าเรือมีร้านขายของทอด ชามุกไรพวกนี้ขายอยู่สองสามร้าน เพลินเลยเลือกร้านที่สดใสๆ หน่อย สั่งชามุก กับเห็ดชุบแป้งทอดมากิน อร่อยมากกกกก ประเทศนี้ของทอดอร่อยแฮะ ชามุกก็สั่งเป็นชาขาว ผสมมุกเม็ดใหญ่และเล็ก แต่ชานมก็รสชาติเหมือนๆ กัน เพียงแต่อากาศร้อน กินยังไงก็ชื่นใจ
เค้าจะมีให้เลือกระดับความหวานและระดับน้ำแข็งด้วยนะคะ
ท่าเรือ Shuishe คนพลุกพล่านหน่อยค่ะ เป็นท่าเรือแรกค่ะ วิวด้านหน้าเป็นภูเขาสวยเลย
ทีนี้ก็ถึงเวลาล่องเรือออกไป… เราก็ไหลไปตามฝูงชนนั่นแหละค่ะ นั่งในเรือถ่ายรูปก็ไม่ได้
แต่ผ่านจุดนึงที่เข้าใจว่าน่าจะเป็นเกาะลาลู คือเกาะเล็กจิ๋วกลางทะเลสาบที่แบ่งทะเลสาบออกเป็น 2 ส่วน ด้านตะวันออกเหมือนพระอาทิตย์ ตะวันตกเหมือนพระจันทร์เลยเป็นที่มาของชื่อ Sun Moon Lake แต่เนื่องจากไม่ได้ดูมุมสูงเลยไม่รู้ว่ามันเหมือนจริงไหม
สักพักก็มาถึงท่าเรือ Xuanguang ซึ่งเป้าหมายของการแวะท่านี้คือมาไหว้พระที่วัดซวงกวง วัดนี้สำคัญยังไงรู้ไหมคะ…
เป็นวัดที่เก็บอัฐิส่วนหนึ่งของพระถังซัมจั๋งไว้ค่ะ!
พระถังซัมจั๋งเป็นผู้เดินทางเพื่ออัญเชิญพระไตรปิฎกจากอินเดียมาที่จีนค่ะ เพลินเลยตั้งใจว่าจะต้องมาไหว้ให้ได้
วัดยังดูใหม่ ไม่ทรุดโทรม สวยสะอาดสะอ้านดีค่ะ เพลินพักเหนื่อยนั่งกินเห็ดทอดต่อให้หมด และดูดชามุกจนหมด ถ่ายรูปเก็บบรรยากาศรอบๆ มีวงดนตรีพื้นเมืองตั้งวงเล่นให้ความบันเทิงกับคนที่มาด้วย นั่งจนหายเหนื่อย (แต่ยังร้อนอยู่) ก็เดินขึ้นบันไดไปยังตัววัดซึ่งอยู่บนเนินเขาอีกที ไม่ไกลมากค่ะ เดินขึ้นบันไดแป๊บๆ ก็ถึง ตลอดข้างทางก็มีต้นไม้ร่มรื่น
ได้ไหว้อัฐิพระถังซัมจั๋งก็ดีใจมากแล้วค่ะ คุ้มค่าที่มามากๆ
จากนั้นก็ออกมาชมวิวทะเลสาบ แต่นักท่องเที่ยวจีนเยอะมาก ขนาดเพลินจะถ่ายรูปหินหน้าวัดยังมีคนต่อคิวยาวเลย เป็นหินขนาดใหญ่เขียนตัวอักษรภาษาจีนสีแดงว่า Sun Moon Lake เพลินเลยเปลี่ยนเป็นยืนดูคนถ่ายรูปแทน ก็สนุกไปอีกแบบ
ด้วยความที่ร้อนมาก เพลินเลยเคลื่อนไหวช้า พอจะไปห้องน้ำก็เสียอีกเลยอั้นไว้ กลับไปที่ท่าเรือเพื่อนั่งต่อไปยังท่าเรือ Ita Thao เดินไหลไปตามคนนี่แหละค่ะ เพราะไม่เห็นมีป้ายบอกเลยว่าเรือไหนไปไหน และอาศัยถามๆ เค้าเอาว่า เรือนี้จะไปอิตา เทา ใช่ไหม
ขึ้นเรือไปก็ลืมสนิทว่าไม่ได้ซื้อไข่ต้มใบชาอันเลื่องชื่อ
แต่ไม่เป็นไรค่ะ อากาศมันร้อนจนเกินจะทน แค่กินของทอดกะชามุกก็อิ่มมากแล้ว
พอถึงท่าเรืออิตาเทา เลยรีบไปหาห้องน้ำเข้า ห้องน้ำที่ไต้หวันสะอาดทุกที่น่าประทับใจมาก
เดือนเรื่อยๆ เพื่อจะไปขึ้นกระเช้า ตามหนังสือเค้าบอกให้เดินเลาะโค้งท่าเรือไปเรื่อยๆ ประมาณ 15 นาที ตอนแรกดูด้วยตาก็ไม่เห็นว่าจะไกลขนาดนั้น แต่พอเดินเข้าจริงๆ ไกลมากกกกกกก ยิ่งแดดแผดเผายิ่งอยากจะกรี๊ด ดีที่แวะซื้อหมวกแก๊ปเพิ่มอีกใบระหว่างทาง จากร้านขายหมวกเลี้ยวซ้าย เดินต่อไปอีกนิดจะเห็นร้านขายชา มีพนักงานสาวมายื่นชาอู่หลงเย็นใส่เม็ดแมงลักให้ชิม
เพลินกำลังร้อนและเหนื่อยเลยรับมาชิม และสั่งของนางมาแก้วนึง ราคา 30 เหรียญไต้หวัน แวะนั่งในร้านนางก่อน เจ้าของผู้ชายอีกคนนึงเลยมาชวนคุย บอกว่าเธอสวยและขาวมากจนอยากรู้ว่าเป็นชาติอะไร….
โห… บอกว่าเป็นคนไทยเค้าแปลกใจมาก
ฮีแนะนำว่าเดินต่อไปอีกนิด เลี้ยวขวาสักพักก็ถึง ขากลับถ้าไม่อยากกลับไปที่ท่าเรืออิตาเทา ให้นั่งบัสกลับ มันจะมีป้ายรถบัสวิ่งกลับไปที่ท่าเรือแรก บัตรเราใช้ได้ เพลินเลยตั้งใจ นั่งบัสกลับท่าเรือละกัน ร้อนจะตาย เมื่อยมากด้วย
กว่าจะถึงกระเช้าต้องเดินผ่านเนินและเลาะตามโค้งหาดทรายอีกสิบนาที ขึ้นกระเช้าแล้วถึงได้เห็นวิวมุมสูงอันสวยงามของทะเลสาบสุริยันจันทรา เหงื่อแตกพลั่กๆๆๆ ก็พอคุ้ม แถมกระเช้านั้นเพลินนั่งคนเดียวด้วย ก็พอไหวอยู่ค่ะ
ขึ้นไปถึงแล้วก็ต้องลงมา เพราะไม่มีอะไรทำ ไม่มีจุดชมวิวถ่ายรูปอีก และเพลินไม่ได้ซื้อตั๋วเข้าชม Aboriginal Cultural Village เพราะอ่านมาว่าเป็นสวนสนุกค่ะ เลยหยุดอยู่หน้าวิลเลจนั้นและลงกระเช้ากลับมาทันที
หารถบัสไม่เห็นเจอเลย…. นาทีนั้นกลัวไม่ทันขึ้นรถบัสกลับไท่จงค่ะ ถ้าพลาดปุ๊บนี่ไม่ทันรถไฟกลับไทเปแน่ๆ ค่ะ แล้วก็เป็นอย่างนั้น เพราะพอไม่เจอบัส เพลินก็รีบเดินกลับไปที่ท่าเรืออิตาเทา และนั่งเรือกลับท่าเรือ Shuishe เดินไปที่ป้ายรถบัสอย่างรู้ชะตากรรมว่า ตกรถไฟแน่ๆ
ระหว่างที่วิ่งไปที่ท่าเรืออิตาเทาก็ยังมีแก่ใจชมความงามของโค้งน้ำสีมรกต และบ้านแพลอยน้ำ อดถ่ายรูปไว้ไม่ได้
พอมาถึงมีชายสองคนมาดักและถามว่าจะกลับไท่จงใช่ไหม ไม่มีบัสแล้วนะ ต้องไปกับพวกเขาแหละ แต่เพลินไม่ค่อยเชื่อเท่าไหร่เพราะยังเห็นคนต่อคิวยาวที่ป้ายรถบัส เลยปฏิเสธและไปต่อคิว ปรากฏว่า ก็เป็นรถบัสกลับไท่จง สรุปคือไอ้พวกนั้นโกหกค่ะ!
รถบัสรอบที่เพลินต้องขึ้นคือ 16.10 แต่ตอนนั้น 16.20 คนก็ต่อคิวยาว กว่าจะมาก็ 16.40 ถึงไท่จงก็เกือบหกโมงเย็น (ตกรถไฟรอบนั้นไปแล้ว) แต่ก็ไปถามคนขายตั๋วว่าตกรถ จะซื้อตั๋วใหม่ เค้าก็ขอดูตั๋วเรา เห็นเป็นตั๋วที่ Reserved มาแล้วก็บอกว่าไม่ต้องซื้อใหม่ ยังนั่งได้ แต่จะกลายเป็น Non Reserved คือไม่มีที่นั่ง ให้ไปขบวนของ Non Reserved คือ 10-12 และขึ้นได้รอบ 18.39 เท่านั้น
เราก็โอเค ไปนั่งรอหน้าชานชาลาเลย ซื้อข้าวปั้นแฟมิลี่มาร์ท (อีกแล้ว) มากิน (ก็มันอร่อย) กับน้ำเปล่าเพิ่ม มาเที่ยวร้อนๆ แบบนี้ต้องดื่มน้ำเยอะๆ ค่ะ เพื่อผิวพรรณและร่างกายของเรา
กว่าจะถึงไทเป กว่าจะนั่งรถ MRT กว่าจะเดินกลับโรงแรม ขาลากเลย เลยกินมื้อเย็นที่โรงแรมนี่แหละ
SUMMARY
ทะเลสาบสุริยันจันทรา หรือ Sunmoon Lake เป็นทะเลสาบสีมรกตขนาดใหญ่ กินพื้นที่รวมเนินเขา เกาะแก่งต่างๆ โดยรอบกว่า 8 ตารางกิโลเมตร สวยงามด้วยแนวเขาสลับซับซ้อนแทรกและโอบล้อมทะเลสาบไว้ มีเกาะ Lalu ซึ่งเป็นเกาะขนาดจิ๋วที่ว่ากันว่าเป็นตัวแบ่งทะเลสาบออกเป็น 2 ส่วน ทำให้ด้านตะวันออก รูปร่างเหมือนพระอาทิตย์ และส่วนตะวันตกรูปร่างเหมือนพระจันทร์ เลยเป็นที่มาของชื่อทะเลสาบสุริยันจันทรา
วิธีเดินทางคือนั่งรถไฟมาลงเมืองไท่จง จากนั้นนั่งรถบัสมาลงเมืองนานโถว จากนั้นนั่งเรือจากท่าเรือ Shuishe ไปเที่ยวตามเกาะตามท่าต่างๆ รอบทะเลสาบ
สวยงามเรียบง่ายแบบสงบ แม้จะมีนักท่องเที่ยวเยอะแต่ไม่วุ่นวาย ช้งเช้ง
Quick Info
📆Date: 27 June 2017
🛥Place: Sun Moon Lake, Nantou
🌎Location: Taiwan
🇹🇼
— at 日月潭-阿婆茶葉蛋.