หลายคนอาจใฝ่ฝันอยากเห็นปราสาทนอยชไวน์สไตน์ แห่งเยอรมัน ต้นกำเนิดปราสาทดิสนีย์ แต่เพลินกลับมีภาพจำว่าอยากมาเยือนเกาะเบลด ชมปราสาทเบลด ได้เห็นน้ำสีเขียวมรกตแห่งทะเลสาบเบลดด้วยตาตัวเองสักครั้ง ถูกใจในความสงบเงียบที่นักท่องเที่ยวยังมาแห่แหนราวกับกรุงแตกเช่นนอยชไวน์สไตน์ หรือสถานที่ต่างๆ ในปารีส
ถ้าใครเริ่มต้นที่ลุบลิยานา (Ljubljana) นั่งรถมาที่เมืองเบลดสักชั่วโมงกว่าก็ถึง แต่เพลินเลือกมาจากฝั่งออสเตรีย คือลงเครื่องที่เวียนนา จากนั้นนั่งรถต่อเข้าเมืองกราซ (Graz) ซึ่งยังอยู่ในประเทศออสเตรีย (เมืองนี้มีพรมแดนติดสโลวิเนีย เราเลยเลือกเดินเล่นที่กราซก่อนค่ะ)
อ่านเรื่องเที่ยวเมือง Graz ได้ที่ Graz – Cultural City of Europe ความงามเล็กๆ ที่ซ่อนในเมืองใหญ่
เที่ยวชมเมืองสักครู่ก็นั่งรถต่อ ข้ามพรมแดนมาที่เมืองเบลด ประเทศสโลวิเนีย ใช้เวลาประมาณสองชั่วโมง (จากปกติสองชั่วโมงครึ่งเพราะรถไม่ติดมาก และผ่านด่านตรวจเร็วค่ะ) สามารถเลือกรถโค้ชหรือรถไฟก็ได้ค่ะ จองในเว็บ Euroline ได้เลยหรือใครมีตั๋ว Eurail pass ก็วางแผนดีๆ นั่งรถมาลงลุบลิยานา
ต้องเล่าก่อนว่าชาวสโลวิเนีย (หรือเรียกว่าชาวสโลวีน) เป็นกลุ่มชนชาวสลาฟ อยู่ในดินแดนแถบนี้มานาน ถูกกลุ่มชนนั้นนี้ อาณาจักรนั้นนี้รุกราน ปกครองบ้างผลัดกันไป แต่อาณาจักรที่มีอิทธิพลสูงกินเวลายาวนานในอดีตคือราชวงศ์ฮับสบูกร์ของพวกทางออสเตรีย เยอรมัน และพวกเติร์ก (ตุรกี) รุกราน จึงได้รับอิทธิพลมาบ้าง (แต่จะได้รับฮับสบูกร์มากกว่า)
ต่อมาช่วงหลังสงครามโลกครั้งที่หนึ่ง สโลวิเนียเข้าร่วมสร้างชาติกับพวกโครแอท (โครเอเชีย) และ เซิร์บ (เซอร์เบีย) เป็น ยูโกสลาเวีย มีผู้นำประเทศที่ยิ่งใหญ่คนหนึ่งคือ นายพลติโต ที่ปกครองด้วยระบบสังคมนิยมคอมมิวนิสต์ แต่เป็นที่รักของประชาชน (ด้านมืดก็มี แต่ภาพรวมเป็นรัฐบุรุษผู้ยิ่งใหญ่) ติโตมีอิทธิพลมากในช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง แต่พอสิ้นเขาแล้ว ยูโกสลาเวียก็คลอนแคลน ยิ่งเมื่อเกิดวิกฤติเศรษฐกิจ กลุ่มประเทศในยูโกสลาเวียก็อยากแยกตัว โดยสโลวิเนียประกาศตัวแยกออกเป็นประเทศแรกในปี 1991 จึงนับว่ามีอิสระเป็นชาติของตัวเองมาได้ 26 ปีแล้ว (ปีนี้ปี 2017)
ความเป็นชาติเริ่มได้ 26 ปี ขณะที่อารยธรรม ศิลปะ ประเพณีวัฒนธรรมของเค้าเก่าแก่ยาวนานนับย้อนเป็นหลายร้อยปีไปถึงพันปีเลยด้วยซ้ำ!
กลับมาที่เบลดต่อดีกว่าค่ะ เพลินมาถึงเบลดช่วงบ่ายแก่ๆ ดีที่มาในช่วงกลางเดือนตุลาคม ใบไม้เปลี่ยนสี อากาศกำลังดีไม่ร้อนไม่หนาวเกินไป ได้เห็นสีสวยๆ ส้มๆ แดงๆ เหลืองๆ ของต้นไม้ใบหญ้าละลานตาไปหมด
น้ำในทะเลสาบเป็นสีเขียวมรกตและใสกิ๊งจนเห็นปลาแหวกว่าย
ทะเลสาบเบลดเป็นทะเลสาบน้ำอุ่นขนาดใหญ่ เพิ่งมามีชื่อเสียงเมื่อนายแพทย์ขาวสวิสชื่อ Dr. Arnold Rivli ได้ย้ายมารักษาคนไข้ที่นี่เพราะเห็นอากาศบริสุทธิ์ดี และคนไข้ก็อาการดี รักษาหาย ขณะที่มีอีกเรื่องเล่าว่ามีชายคนหนึ่งมารักษาตัวด้วยน้ำในทะเลสาบเบลดแล้วหาย ทะเลสาบนี้เลยดัง ต้อนรับนักท่องเที่ยวกันใหญ่
เราจะเห็นปราสาทเบลดตรงฝั่งก่อน อยู่บนผาสูงขึ้นมาอีกที เป็นปราสาทเก่าแก่ที่สุดในสโลวิเนีย แต่เพลินไม่ได้ขึ้นไปชมปราสาทนะคะ ใจร้อนอยากล่องเรือไปเกาะเบลดเร็วๆ เกาะเบลดเป็นเกาะน้อยๆ กลางทะเลสาบ มีโบสถ์โกธิคอยู่หลังหนึ่ง เป็นภาพที่ติดตาฝังใจให้เพลินมาเบลดมากๆ เลยค่ะ
การเดินทางไปเกาะเบลดต้องนั่งเรือก้นแบนไป มีให้เช่าที่ฝั่ง ราคาเท่ากันทุกเจ้า เรือก้นแบนนี้ชื่อเรือเพลทน่า มีคนพายเป็นหนุ่มหล่อล่ำ พายสองข้างอย่างคล่องแคล่ว ด้วยลักษณะเรือแบบนี้เค้าสั่งห้ามเด็ดขาดไม่ให้ยืน หรือชะโงกยืดตัวเพราะจะทำให้เรือเสียสมดุลย์และคว่ำได้
เรือเข้าใกล้เกาะเบลดทีละน้อยๆ เห็นน้ำใสแจ๋วและหงส์สองสามตัวเลาะริมฝั่งบนเกาะคอยมองว่านักท่องเที่ยวคนไหนจะให้ขนมปังบ้าง (ไม่ควรให้นะคะ เสียระบบนิเวศน์) ต้นไม้สีส้ม เหลืองแดงเตี้ยๆ รายล้อมเกาะดูสวยสะกดใจจริงๆ พอเรือเทียบท่า ขึ้นฝั่งปุ๊บจะเห็นบันได 99 ขั้นในตำนาน!
ใช่ค่ะ 99 ขั้นเพื่อขึ้นไปสู่โบสถ์โกธิคที่ว่า แต่พอขึ้น 99ขั้นยังไม่ถึงโบสถ์ดีหรอกนะคะ ต้องเดินขึ้นไปอีก
มีตำนานเล่าว่าคู่แต่งงานที่จะพิสูจน์รักแท้ เจ้าบ่าวต้องอุ้มเจ้าสาวขึ้นบันได 99 ขั้นนี้ค่ะ (ไหวไหมว้า) หันไปบอกคนข้างๆ ว่าอุ้มมะ เค้าหัวเราะแล้วไม่ตอบ…แปลว่าไรอ่ะ
ส่วนระฆังในโบสถ์ถ้าตีสามครั้งดีๆ พร้อมขอพรเค้าว่าจะเป็นจริงค่ะ แต่เพลินไม่ได้ขึ้นไปถึงโบสถ์นะคะ เหนื่อย (ถึงแม้จะเป็นแฟนโบสถ์ก็เหอะ) จริงๆ ตั้งใจเดินเล่นรอบเกาะเพราะกลัวฟ้าจะมืดเสียก่อน
นี่คือโบสถ์และระฆังค่ะ
เมื่อขึ้นบันได 99 ขั้นมาจะมีร้านไอติมและพิพิธภัณฑ์อยู่ซ้ายมือ หน้าเพลินก็จะเหนื่อยนิดหน่อย แต่มีไอติมก็สดชื่น…
จากหน้าร้านไอติม เดินเลยไปจะมีทางแยกสองง่าม ถ้าจะเดินวนรอบเกาะให้เดินไปง่ามซ้าย เป็นทางเดินแบบดิน ต้องค่อยๆ เดินนะคะ
ก็จะลาดต่ำลงไปเห็นท่าเรือด้านหลังเกาะ (คนละด้านกับที่เพลินขึ้น) จะเห็นโรงแรมหลายแห่งจากฝั่งตรงข้าม นักท่องเที่ยวบางคนก็พักที่นั่น
สวยงามมม เพลินชอบมากๆ ได้บรรยากาศและสีสันแบบใบไม้ร่วง
ตอนนั้นเพลินไปเจอคู่ฝรั่งกำลังบ่นว่าถูกคนพายเรือทิ้ง เลยตัดสินใจพายกลับกันเอง! คุณพระ น่ากลัวมากถ้าพายไม่เป็น เพราะน้ำลึก และไกลจากฝั่งพอสมควร แต่ดูเค้าทำคล่องแคล่วกันดี
ตอนนี้ก็เดินเก็บบรรยากาศรอบเกาะค่ะ ชมใบไม้เปลี่ยนสี และทะเลสาบมรกตใส มีความสุขมากๆ
ประทับใจจริงๆ ฝันเป็นจริงไปหนึ่งอย่างละ
แถมอีกนิด ส่วนอาคารขาวๆ บนฝั่งหลังนี้เป็นบ้านของนายพลติโตค่ะ ว่ากันว่าเป็นที่ที่ท่านถึงแก่อสัญกรรม
ปัจจุบันเป็นโรงแรมค่ะ… จะกล้าพักไหมนี่…
Summary
ทะเลสาบเบลด ทะเลสาบน้ำอุ่นท่ามกลางธรรมชาติสงบเงียบ อากาศบริสุทธิ์ มีปราสาทเบลดตั้งอยู่บนหน้าผาบนฝั่ง กลางทะเลสาบมีเกาะเบลด เป็นเกาะน้อยๆ มีโบสถ์ทรงโกธิค ตีระฆังในโบสถ์เพื่อขอพรได้การไปเกาะเบลดต้องนั่งเรือเพลทน่า (Pletna) เป็นเรือก้นแบน ราคาเท่ากันทุกเจ้า (เช็กราคาอีกทีนะคะ)
การเดินทางมาเมืองเบลด นั่งจากลุบลิยานามาชั่วโมงกว่า
หรือข้ามพรมแดนมาจากเมืองกราซ ออสเตรียก็ได้เช่นกัน
การเดินทางข้ามสองประเทศนั่งรถไฟหรือรถโค้ชได้ รถไฟจะลงเมืองใหญ่ต้องลงลุบลิยานาก่อน รถโค้ชมีหลากหลายต้องตรวจสอบอีกทีเพราะมีบริษัทหลายเจ้า
3 Comments