วันนี้เพลินเดินทางไปเชียงตุงค่ะ ตั้งใจเป็นทริป social detox คืองดอาการเสพติดโซเชียล สัมผัส รับพลังธรรมชาติ ป่าเขา อากาศสดชื่น
.
ออกเดินทางจากเชียงใหม่ไปถึงอ.แม่สาย เชียงราย แล้วข้ามชายแดนท่าขี้เหล็กสู่พม่า นั่งรถต่อยาวสี่ชั่วโมงถึงเชียงตุง
.
อากาศดี ธรรมชาติยังสะอาดบริสุทธิ์ ชมนาข้าวขั้นบันไดยาวสุดลูกหูลูกตา ยิ่งเข้าเขตเชียงตุงเท่าไหร่ยิ่งเห็นทุ่งนาป่าเขาผืนยาวเหยียดและผืนป่าสูงแน่นทึบอย่างที่ไม่มีทางเห็นในเมืองไทยเพราะผืนป่าทุ่งนาส่วนใหญ่ในไทยล้วนถูกจับจองดัดแปลงไปหมดยังไงก็ต้องเห็นรีสอร์ตร้านกาแฟหรือจุดเรียกนักท่องเที่ยวต่างๆนายทุนทั้งหลายจะไม่มีทางปล่อยพื้นที่กว้างใหญ่ไพศาลที่มีพืชพรรณอุดมสมบูรณ์เฉยๆแน่ๆจะต้องซื้อมาทำอะไรสักอย่าง
แต่ที่เชียงตุงเรายังเห็นผืนป่าผืนนากว้างไกลสีเขียวและเหลืองทองไกลสุดสายตาทำให้ประจักษ์ชัดถึงคำว่า “อุดมสมบูรณ์” อย่างแท้จริง
เดินทางมาทั้งวันนี่คุ้มค่ามากตกเย็นฝนตกพอดีพรำๆผ่านต้นหญ้าต้นข้าวมาจนเข้าเขตตัวเมืองให้อารมณ์เหมือนต่างจังหวัดเราเมื่อสี่สิบห้าสิบปีก่อนหรืออาจมากกว่านั้นผู้คนยังคงใช้ชีวิตเรียบง่ายยิ้มง่ายจริงๆ . คืนนี้นอนกันที่ Harry Trekking Guesthouse ข้อดีคืออยู่ติดตลาดเช้าคนมาขายของกันตั้งแต่หกเจ็ดโมงจนถึงเก้าโมงค่ะ
บรรยากาศตลาดยามเช้าค่ะ อาหารที่ขายก็ก็แบกับพื้นกันง่ายๆ นี่เลยทั้งผัก ผลไม้ มีหมูปิ้งด้วย รสชาติเหมือนบ้านเรา มีลูกชิ้นสด แต่ส่วนใหญ่จะเน้นผัก ผลไม้
ผักนี่เยอะมากค่ะสดๆปลอดยาฆ่าแมลงและเป็นอินทรีย์เกษตร (ออร์แกนิก) อย่างแท้จริงแต่วางบนพื้นมันก็จะเปื้อนฝุ่นหน่อยนะคะฮ่าๆๆ
เครื่องเทศ ไม้กวาดก็มีนะก๊ะ
Summary นั่งรถจากเชียงใหม่มาถึงอ. แม่สาย จ.เชียงราย ข้ามด่านเข้าสู่พม่า เมืองท่าขี้เหล็ก นั่งรถยิงยาวไปถึงเชียงตุงตอนค่ำๆ
พักเกสต์เฮาส์ชื่อ Harry Trekking Guesthouse โ
าแบบง่ายๆ ให้แล้วแต่อารมณ์เจ๊เจ้าของว่าจะทำอะไรให้เรากิน เช่น ก๋วยเตี๋ยว ข้าวผัด โรตี หรือจะซื้อเองที่ตลาดเช้าก็ได้หน้าเกสต์เฮาส์มีตลาดเช้า เปิด 7.00-9.00 น.แลกเงินจ๊าดและซื้อซิมพม่าได้ที่เจ๊เจ้าของเกสต์เฮาส์เลยค่ะ อินเตอร์เน็ตเร็วนะจ๊ะ
